วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ นฤมล จันทร์สมุทร
ชื่อเล่น มายด์ เรียกสั้นๆว่า มายด์ เรียกยาวๆว่า มายด์ๆๆ ^^
เบิร์ดเดย์ วัน อังคาร ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2543
อายุ 15 ปี เลือดกรุ๊ป O
ที่อยู่ 106/3 แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพ 10150
น้ำหนัก 47 กิโลกรัม ส่วนสูง 150 เซนติเมตร
ประเทศที่อยากไปเที่ยว เกาหลี ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา
งานอดิเรก ดูหนัง ซีรี่ย์ การ์ตูน อนิเมชั่น ยูทูป ฟังเพลง อ่านหนังสือนิยาย วาดรูป
สีที่ชอบ ดำ ขาว เทา แล้วแต่อารมณ์
สไตล์การแต่งตัว SPORTING , LIFE HIPHOP LINE  ,GRUNGE IS RETURN
อาหารที่ชอบ แกงเขียวหวาน ไข่เจียวหมูสับ
เพลงที่ชอบ POP , HIP-HOP , R&B
สถาบัน โรงเรียนวัดราชโอรส

อาชีพที่สนใจ


อาชีพมัณฑนากร
 (Interior-Decorator)
นิยามอาชีพ
    ผู้ปฏิบัติงานอาชีพนี้ ทำงานเกี่ยวกับการออกแบบและตกแต่งภายใน อาคารสำนักงาน อาคารอยู่อาศัย และบ้านเรือน ให้เป็นไปตามความต้องการของลูกค้า 
ลักษณะของงานที่ทำ
    มัณฑนากรเป็นผู้ออกแบบการตกแต่งภายในสถานที่อยู่อาศัย หรือสถานที่ทำงาน ต้องทำงานตามขั้นตอน และกำหนดเวลาชิ้นผลงานต่างๆ ร่วมกับผู้ว่าจ้าง
  1.  บันทึกรายละเอียด ความต้องการของลูกค้า เพื่อออกแบบให้สร้างสรรค์ ที่สุดและเป็นที่สะดุดตา ประทับใจ และได้รสนิยมตรงตามความต้องการของลูกค้า
  2.  ศึกษาโครงสร้างของงาน จัดดำเนินการออกแบบตกแต่ง คำนวณแบบ ประมาณราคา และเลือกวัสดุ ตกแต่งที่มีคุณภาพเหมาะสม และให้ประโยชน์สูงสุดกับลูกค้า และให้ตรง เป้าหมายและประโยชน์ใช้สอย
  3.  ส่งแบบที่วาดและเสนองบประมาณให้ลูกค้าพิจารณา
  4.  เมื่อผ่านการแก้ไขดัดแปลงแบบให้สมบูรณ์แล้วจึงส่งแบบให้กับช่างต่างๆ เช่นช่างไม้ หรือช่างเชื่อมเหล็กให้ทำงานตามโครงสร้างที่ออกแบบไว้
  5.  ปฏิบัติงาน และประสานงานกับระบบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  6.  ให้คำปรึกษาแนะนำแก่ช่างเพื่อให้การออกแบบเป็นไปตามเงื่อนไขสัญญา
 
สภาพการจ้างงาน
    มัณฑนากรที่รับราชการจะได้รับเงินเดือนตามวุฒิการศึกษา ถ้าทำงานกับภาคเอกชนจะได้รับ เงินเดือนขั้นต้นอยู่ระหว่าง15,000 - 20,000 บาท ขึ้นอยู่กับฝีมือและประสบการณ์ในการฝึกงาน ขณะที่กำลังศึกษาอยู่ และได้รับสวัสดิการตามที่กฎหมายแรงงานกำหนด และสิทธิประโยชน์อื่น เช่น โบนัสขึ้นอยู่กับผลประกอบการ 
สภาพการทำงาน
    การปฏิบัติงานการออกแบบ ส่วนมากต้องทำงานทั้งในและนอกสำนักงาน เช่นในอาคาร ในสถานที่กำลังตกแต่ง อาจต้องใช้คอมพิวเตอร์และโปรแกรมช่วยในการออกแบบ 
คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพ  ผู้ประกอบอาชีพนี้ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
  1.  มีคุณวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาตกแต่งภายใน
  2.  มีความคิดสร้างสรรค์ ผลิตผลงานที่ไม่เหมือนใคร เป็นคนมีความละเอียดรอบคอบ
  3.  มีความสามารถในการรู้จักประยุกต์ใช้วัสดุที่มีในประเทศ เพื่อแสดงเอกลักษณ์ และประโยชน์ ใช้สอยสูงสุด
  4.  มีทักษะในการใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรมในการช่วยวาดรูปหรือออกแบบ
  5.  มีระเบียบวินัย เข้าใจถึงการบริการทางธุรกิจ
  6.  มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ให้ความร่วมมือกับ ทีมงานดี และมีความสามารถในการประสานงาน
  7.  มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และปรับปรุงความรู้ความสามารถอยู่ตลอดเวลา
  8.  รู้แหล่งข้อมูลเพื่อซื้อหาวัตถุดิบ
  9.  ออกแบบตกแต่งภายในอาคารบ้านเรือนให้ถูกหลักและตรงตามความต้องการของผู้บริโภค และ เพื่อความปลอดภัย ประหยัดเหมาะสมกับภาวะสังคมและเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน 
ผู้ที่จะประกอบอาชีพนี้ ควรเตรียมความพร้อมดังต่อไปนี้คือ : เมื่อสำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า(สายวิทย์) สอบคัดเลือกเรียนในมหาวิทยาลัยที่จัดสอนคณะหรือภาควิชาสถาปัตยกรรม ซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัย อาจไม่เหมือนกัน 
โอกาสในการมีงานทำ
    สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้อุตสาหกรรม วงการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบมากในการจัดหาเงิน มาดำเนินการลงทุนทางด้านก่อสร้าง ทำให้อาชีพนี้สะดุดไประยะหนึ่ง แต่ผู้ประกอบอาชีพนี้พยามเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส คือใช้ความรู้ความสามารถ และประสบการณ์เปลี่ยนไปออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ของเล่น อุปกรณ์การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ต่างๆ เพื่อเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเฉพาะ 
โอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ
    ในภาครัฐบาลผู้ที่ปฏิบัติในหน้าที่นี้จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งและขั้นตามความสามารถ ถ้าพยายามปรับพัฒนาฝีมือและสร้างสรรค์ผลงาน ตำแหน่งอาจเลื่อนถึงผู้อำนวยการของหน่วยงานที่ตนสังกัดอยู่ ประกอบอาชีพส่วนตัวในการออกแบบทำสินค้าพรีเมี่ยม สินค้าที่ระลึก 
อาชีพที่เกี่ยวเนื่อง
    นักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ นักออกแบบกราฟิก ครู - อาจารย์ ในคณะสถาปัตยกรรมของสถาบันการศึกษาต่างๆ 

วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Galaxy

           

เทคนิคการถ่ายภาพจากมือถือให้สวย
        
        ในปัจจุบันนี้กล้องของมือถือ มีความคมชัดของกล้องบนโทรศัพท์มือถือนั้นสููงขึ้นทุกวันๆ ไม่ว่าจะชัดตื้นละลายฉากหลังได้ ถ่ายแสงน้อยได้ชัด หรือแม้แต่ถ่ายภาพเคลื่อนไหว กล้องมือถือได้รับการพัฒนาขึ้นมาจนถึงขั้นใช้งานได้ดีพอสมควร ทำให้เสมือนว่าเรากำลังพกกล้องไปทุกที่ทุกเวลา และไม่พลาดที่จะถ่ายภาพในทุกสถานการณ์เลยทีเดียววันนี้เราเลยมีทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะพัฒนาการถ่ายภาพจากมือถือของคุณให้ดีขึ้น จนบางทีเพื่อนคุณอาจจะไม่เชื่อก็ได้ว่าภาพเหล่านี้ถ่ายจากมือถือ
              
              1. หันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์และปรับโหมดเป็น HDR



       
        มัยนี้กล้องมือถือจะพยายามใส่ฟังชั่น HDR (High Dynamic Range) เข้ามา ซึ่ง HDR นี้ก็คือการถ่ายโดยเก็บรายละเอียดในภาพทั้งส่วนมืดและสว่างให้มีรายละเอียดครบถ้วน ฉะนั้นหากถ่ายภาพในโหมดนี้แล้ว เราก็จะแก้ปัญหาหน้ามืดเมื่อหันกล้องเข้าหาดวงอาทิตย์ได้ระดับหนึ่งทีเดียว แต่ถ้าจะให้ได้ผลดีที่สุด ให้รอช่วงที่พระอาทิตย์กำลังจะตก ช่วงนั้นแสงจะไม่รุนแรงมากนัก ทำให้เราสามารถเก็บภาพที่มีรายละเอียดแสงสีที่สวยงามได้ และยิ่งวันไหนที่ท้องฟ้าเป็นใจ เราก็จะได้ภาพท้องฟ้าสวย ๆ อย่างแน่นอน 


             2. ดีไซน์ภาพกับฟิลเตอร์แบบอาร์ต ๆ ด้วยถุงพลาสติก


     
         ใครจะคิดว่าถุงพลาสติกใส่กับข้าวที่เราคุ้นเคยกันดีนั้น จะนำมาทำเป็นฟิลเตอร์ที่ช่วยให้ภาพถ่ายมีสีสันมากขึ้น เพียงนำปากกามาร์คเกอร์สีแดงและสีน้ำเงิน (ใครอยากลองใช้สีอื่นด้วยก็ได้ ไม่ว่ากัน) ระบายลงที่ถุงพลาสติก จากนั้นฉีกกลางถุงให้เป็นช่องและนำมาครอบเลนส์ โดยใช้หนังยางรัดปากถุงให้แน่น คุณก็จะได้ฟิลเตอร์อาร์ต ๆ เก๋ ๆ ที่ไม่เหมือนใครแล้ว 

             3.จัดวางตัวเครื่องให้อยู่ในแนวนอนอยู่เสมอ



        
        หากลองคิดๆ ดูแล้ว หน้าจอแสดงผลของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เราเจอในชีวิตประจำวัน มักจะถูกจัดวางให้อยู่ในแนวนอน ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์, เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือโน๊ตบุ๊ค นั่นก็เป็นเพราะว่าสายตาของคนเราถูกจัดวางไว้ในแนวนอนนั่นเอง ซึ่งก็คงจะดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก หากเราต้องเลือกถ่ายภาพในแนวตั้ง ดังนั้นถ้าเป็นไปได้  พยายามเลือกถ่ายภาพให้อยู่ในแนวนอนอยู่เสมอ ก็น่าจะเป็นการดีที่สุด

                 4.ถ่ายช่วงเวลาทอง

          
         หลาย ๆ คนพยายามจะถ่ายภาพช่วงกลางวันที่แดดจัด ๆ และเกิดความสงสัยมาตลอดว่า ทำไมภาพที่ถ่ายออกมาดูแข็ง ๆ แสงไม่สวยเลย ดูภาพไม่มีชีวิตชีวาให้ลองเปลี่ยนเวลาถ่ายรูปโดยไปถ่ายช่วงเวลาก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน หรือที่คนทั่ว ๆ ไปเรียกว่าตอนเย็นนั่นแหละ ถ้าเป็นในประเทศไทยก็คือราว ๆ 5 โมงเย็น ช่วงเวลานี้ ถ้าเป็นวันที่มีแดด แสงแดดจะนุ่มเนียนตามากกว่าเวลาอื่น ๆ และเมื่อเราถ่ายรูปออกมา ภาพจะออกโทนเหลือง ๆ แดง ๆ คอนทราสของภาพก็จะสวยงามลงตัว เราเรียกเวลาช่วงนี้ว่า เวลาทอง Golden moment 

                 5.ถ่ายช่วงทไวไลท์

               
             ทไวไลท์คืออะไร ? มันคือช่วงเวลาหลังพระอาทิตย์ตก หรือก่อนพระอาทิตย์ขึ้นซักพักนึง นั้นก็คือแสงของท้องฟ้าสีเหลือง ส้ม หรือแดงตัดกับแสงสีน้ำเงิน ให้ภาพมีสีสันโดดเด่นมากกว่าท้องฟ้าในตอนกลางวันหรือตอนฟ้ามืดสนิท นอกจากนั้นยังมีความตื่นเต้นและท้าทายเนื่องจากมีช่วงเวลาในการถ่ายภาพเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น หรือที่เรามักคุ้นหูกันว่า เป็นช่วงนาทีทอง (Golden minute) ที่ถ่ายได้ไม่กี่รูปแสงดวงอาทิตย์ก็หมดแล้วท้องฟ้าก็จะมืดสนิท

                  6.แต่งรูปสีหวานๆแนวพาสเทลด้วยแอพ Fotor



             แน่นอนว่าถ้าใช้มือถือถ่าย การใช้ APP ก็เข้ามาช่วยได้อย่างง่ายดาย โดยการปรับหลาย ๆ อย่างที่เราว่ามาข้างต้น เช่น การจัดองค์ประกอบ การแก้พื้นเอียง หรือปรับแสงสีเล็กน้อยให้สวยตามที่เราต้องการ ก็สามารถทำได้ใน APP นี่แหละ และขอแนะนำ Fotor  APP ที่ใช้งานง่ายและฟรี สามารถปรับแต่งได้ค่อนข้างหลากหลาย ควรเก็บไว้ประจำเครื่อง

                  7.มือต้องนิ่ง


                ปัญหาหลักเลยที่ทำให้ภาพดูไม่น่าประทับใจคือ มือเราดันไม่นิ่ง ยิ่งบางคนไม่ถนัดกับการถ่ายด้วยมือถือเอาซะเลย เพราะมันเล็กเกินไป ฉะนั้น เราต้องมาฝึกถ่ายให้มือนิ่งกัน โดยเริ่มจากลองกลั้นหายใจตอนจะกดถ่ายดูก่อน เพราะส่วนใหญ่จะนิ่งขึ้นพอสมควร หรือหากเป็นช่วงเย็นที่แสงไม่พอ ลองหาพื้นหรือผนังที่แข็งแรง แล้วเอามือถือไปพิงแล้วค่อยถ่าย จะลดอาการสั่นได้ดีทีเดียว หรือหากถึงที่สุดจริง ๆ ให้ใช้ขาตั้งเล็ก ๆ และตั้งเวลาถ่ายเอา คราวนี้ยังไงก็นิ่งแน่นอน

               8.ไม่ใช้การซูมอย่างเด็ดขาด

                
            แม้ว่ากล้องดิจิตอลสมาร์ทโฟนแทบทุกรุ่นจะสามารถซูมได้หลายเท่า แต่ทว่านั่นไม่ใช่การซูมด้วยเลนส์ เหมือนกับกล้องจริงๆ ที่ยังคงรักษาคุณภาพของรูปภาพเอาไว้ได้ หากแต่เป็นการซูมแบบดิจิตอล ที่อาศัยซอฟต์แวร์ในการประมวลผล ซึ่งแทบจะคาดหวังในเรื่องของคุณภาพไม่ได้ เนื่องจากภาพที่ได้แม้จะใกล้กับวัตถุที่เราต้องการ แต่รายละเอียดต่างๆ จะไม่คมชัด เกิดอาการแตก และเบลอของภาพ จึงนับว่าไม่คุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นแทนที่เราจะเข้าใกล้กับวัตถุด้วยการซูมแบบดิจิตอล ก็แนะนำให้เปลี่ยนเป็นการเดินเข้าไปใกล้ๆ กับวัตถุที่เราต้องการถ่ายด้วยตัวเองจะดีกว่า


                   9. ฝึกจัดองค์ประกอบแบบง่าย ๆ

            ไม่ต้องเป็นมืออาชีพก็จัดองค์ประกอบแบบง่าย ๆ ได้ โดยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดคือ กฎ 3 ส่วน แบ่งภาพออกเป็นตาราง โดยใช้เส้นแนวตั้งหรือนอน 3เส้น และพยายามจัดองค์ประกอบให้อยู่ในเส้นเหล่านี้ ซึ่งพอเราใช้ทั้งเส้นแนวนอนและตั้งตีลงไปในรูป จะเกิดจุดตัดขึ้นมา เราเรียกว่าจุดตัดเก้าช่อง เราก็พยายามจุดสำคัญของภาพอยู่ที่จุดตัดทั้ง 4 ก็จะทำให้ภาพสวยขึ้นง่าย ๆ


                    10. เรียนรู้มือถือตัวเองให้หมดทุกด้าน


               นักดาบที่ดีควรจะรู้จักดาบของตัวเองทุกซอกมุม ถ้าจะถ่ายภาพด้วยมือถือเราก็ต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมัน ไม่ว่าจะความละเอียดเท่าไหร่ ถ่ายแบบไหนได้บ้าง ซูมแล้วภาพแตกไหม ถ่ายในที่มืดดีหรือเปล่า สิ่งเหล่านี้เป็นทั้งข้อจำกัด และตัวสร้างไอเดียใหม่ ๆ ในการถ่ายภาพได้เสมอ ฉะนั้น ศึกษาอาวุธคู่กายของเราให้ดี และอย่าลืม … ทำความสะอาดเลนส์บ่อย ๆ ด้วยล่ะ เพราะบางคนถ่ายภาพออกมามัวตั้งเป็นปี แล้วนึกว่าเป็นที่กล้อง แต่ที่แท้ เลนส์มีรอยนิ้วมือนี่เอง …


สำหรับ 10 เทคนิคการถ่ายภาพต่างๆ  จริงๆ ทุกท่านสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสมาร์ทโฟนในแพลทฟอร์มอื่นๆ ได้ทันที  เนื่องจากโดยรวมแล้วก็อาศัยหลักการพื้นฐานของการถ่ายภาพอย่างเดียวกัน  ซึ่งเราก็เชื่อว่า ด้วยเทคนิคเหล่านี้ ก็น่าจะช่วยให้ผู้อ่านทุกท่านสามารถถ่ายภาพได้สวยสะดุดตาไม่แพ้ช่างภาพมือโปร ม่แน่ว่าในอนาคต เราอาจจะได้นำไปใช้กับกล้องแบบมืออาชีพก็ได้นะ